Skip to content
Facebook-f Youtube Line

เปิดทำการ: จันทร์ - ศุกร์: 8:30น. - 17:30น.

  • เกี่ยวกับเรา
    • ข้อมูลบริษัท
    • ลูกค้าของเรา
    • ตัวแทนจำหน่าย
    • ใบรับรอง
  • ติดต่อเรา
  • บริการ
  • สินค้า
  • คอร์สอบรม
  • โซลูชัน
  • บทความข่าวสาร
  • ผลงาน

สั่งสินค้าออนไลน์

เมนู
  • บริการ
  • สินค้า
  • คอร์สอบรม
  • โซลูชัน
  • บทความข่าวสาร
  • ผลงาน
  • บริการ
  • สินค้า
  • คอร์สอบรม
  • โซลูชัน
  • บทความข่าวสาร
  • ผลงาน
แอดไลน์

สั่งสินค้าออนไลน์

สั่งสินค้าออนไลน์

แอดไลน์

CDN กับ Load Balancer ต่างกันอย่างไร? เลือกอะไรดีสำหรับการถ่ายทอดสด

  • หน้าแรก
  • บทความข่าวสาร
  • CDN กับ Load Balancer ต่างกันอย่างไร? เลือกอะไรดีสำหรับการถ่ายทอดสด
  • administrator
  • 2 เมษายน 2025
  • 09:18 น.
Facebook
LINE
Twitter
Pinterest

เมื่อพูดถึง การถ่ายทอดสด (Live Streaming) ไม่ว่าจะเป็นงานอีเวนต์ คอนเสิร์ต กีฬา หรือสัมมนาออนไลน์ สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กล้องหรือไมโครโฟนก็คือ ระบบหลังบ้าน ที่ช่วยให้ภาพคมชัด ไม่กระตุก และดูได้พร้อมกันหลายพันคน

สองเทคโนโลยีที่มักถูกพูดถึงในการวางระบบเซิร์ฟเวอร์ถ่ายทอดสดก็คือ CDN (Content Delivery Network) และ Load Balancer แล้วทั้งสองแบบนี้คืออะไร? ต่างกันอย่างไร? และเหมาะกับการใช้งานแบบไหน? มาหาคำตอบกันครับ

CDN (Content Delivery Network) คืออะไร?

CDN คือเครือข่ายของเซิร์ฟเวอร์ที่กระจายตัวอยู่ในหลายพื้นที่ทั่วโลก มีหน้าที่หลักคือ ส่งไฟล์วิดีโอถ่ายทอดสดให้เร็วที่สุด ไปยังผู้ชมในแต่ละพื้นที่ โดยอิงจากตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ เช่น

  • คนดูอยู่กรุงเทพฯ ระบบจะดึงไฟล์จากเซิร์ฟเวอร์ที่ใกล้กรุงเทพฯ มากที่สุด

  • คนดูอยู่สหรัฐฯ ก็จะดึงจากเซิร์ฟเวอร์ที่ใกล้เคียงในอเมริกา

✅ จุดเด่นของ CDN:

  • ลดการโหลดที่เซิร์ฟเวอร์หลัก

  • ส่งข้อมูลได้รวดเร็ว แม้อยู่คนละทวีป

  • รองรับคนดูพร้อมกันจำนวนมาก

  • ป้องกันระบบล่มจากการเข้าชมหนาแน่น

Load Balancer คืออะไร?

Load Balancer ทำหน้าที่ กระจายปริมาณการเข้าชมไปยังเซิร์ฟเวอร์หลายตัวที่อยู่เบื้องหลัง โดยไม่จำเป็นต้องอยู่คนละประเทศเหมือน CDN แต่เป็นการควบคุมทราฟฟิกภายในระบบให้ไม่ล้นหรือแออัดที่เซิร์ฟเวอร์ใดเซิร์ฟเวอร์หนึ่ง

✅ จุดเด่นของ Load Balancer:

  • จัดการโหลดภายในระบบให้สมดุล

  • ถ้ามีเซิร์ฟเวอร์ตัวใดตัวหนึ่งล่ม จะสลับไปใช้อีกตัวทันที

  • เพิ่มประสิทธิภาพให้ระบบเซิร์ฟเวอร์หลัก

  • เหมาะกับระบบถ่ายทอดสดภายในประเทศหรืองานที่มีเซิร์ฟเวอร์อยู่ในพื้นที่เดียวกัน

เปรียบเทียบ CDN กับ Load Balancer สำหรับระบบถ่ายทอดสด

หัวข้อ CDN Load Balancer
จุดประสงค์หลัก กระจายคอนเทนต์ให้ถึงผู้ชมเร็วที่สุด กระจายโหลดระหว่างเซิร์ฟเวอร์หลัก
การใช้งาน ถ่ายทอดสดแบบมีผู้ชมจากหลายภูมิภาค ถ่ายทอดสดแบบระบบภายใน หรือในองค์กร
ความเหมาะสม เหมาะกับงานระดับประเทศ/โลก เหมาะกับงานขนาดกลาง-เล็กในพื้นที่เดียว
ความสามารถในการขยายระบบ ขยายได้ระดับโลก ขยายเฉพาะภายในระบบ
การป้องกันระบบล่ม ดีมาก (เพราะมีหลาย Edge Server) ดี (ใช้เซิร์ฟเวอร์สำรอง)

แล้วควรเลือกอะไรดี?

  • หากคุณกำลังวางแผนถ่ายทอดสดให้คนดูจาก หลายจังหวัดหรือหลายประเทศ คำตอบคือ CDN เพราะมันจะช่วยให้วิดีโอโหลดเร็ว ดูไม่กระตุก

  • แต่ถ้าคุณมีการตั้งเซิร์ฟเวอร์เองในองค์กร และผู้ชมไม่ได้กระจายทั่วโลก การใช้ Load Balancer ก็เพียงพอ และช่วยควบคุมระบบได้ง่าย

ในหลายกรณี ระบบที่ดีจะใช้ทั้งสองร่วมกัน คือใช้ Load Balancer กระจายภายในระบบ และใช้ CDN สำหรับส่งต่อออกไปยังผู้ชม

สรุป

CDN คือพระเอกในการส่งสัญญาณออกสู่โลก ส่วน Load Balancer คือผู้จัดการหลังบ้านให้ทุกอย่างไหลลื่น

ทั้งสองมีบทบาทสำคัญต่างกัน หากคุณต้องการวางระบบเซิร์ฟเวอร์ถ่ายทอดสดที่ เร็ว เสถียร และรองรับการเติบโต การเข้าใจความต่างของ CDN กับ Load Balancer คือสิ่งที่ต้องรู้ก่อนเริ่มต้น

 

Prevย้อนกลับวิธีดึงภาพและเสียงจาก OBS ไปใช้ใน Zoom ด้วย NDI (พร้อมเสียงชัดแจ๋ว)
ถัดไปอัปเกรดเครือข่ายง่าย ๆ แค่แลก Access Point เก่าเป็น Huawei eKit พร้อมรับส่วนลด 50%Next

CYN

CYN COMMUNICATION CO.,LTD. จัดจำหน่าย ให้เช่า และบริการออกแบบติดตั้ง ระบบและอุปกรณ์เน็ตเวิร์ค, บอร์ดแคส สตรีมมิ่ง, เซิร์ฟเวอร์ พร้อมให้บริการ Solution ต่างๆที่เกี่ยวข้อง

Facebook-f Youtube Line

บริการ

  • เซิร์ฟเวอร์
  • ถ่ายทอดสด
  • อินเตอร์เน็ต
  • เน็ตเวิร์ค
  • ประชุม & สัมนาออนไลน์
  • กล้องวงจรปิด

สินค้า

  • Peplink
  • Ruijie
  • Reyee
  • Engenius
  • Blackmagic
  • Synology

เกี่ยวกับเรา

  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • ร่วมงานกับเรา

ติดตามข่าวสาร

รับข่าวสารล่าสุดของเราส่งตรงไปยังกล่องจดหมายของคุณ

© 2022 cyn.co.th. All Rights Reserved.

  • ข้อกำหนดการใช้งาน
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว