ถ้าพูดถึง NAS หรือระบบเก็บข้อมูลที่เชื่อมต่อกับเครือข่าย หลายคนอาจจะคุ้นเคยในฐานะเครื่องเก็บข้อมูลที่ใช้งานง่ายและสะดวก สามารถแชร์ไฟล์ให้ทุกคนในเครือข่ายใช้งานได้ แต่สิ่งหนึ่งที่หลายคนอาจสงสัยคือ “NAS ของเรามันจะดาวน์โหลด/อัพโหลดไฟล์ได้เร็วแค่ไหน?” เพราะความเร็วนี้มีผลต่อการใช้งานจริงมาก ไม่ว่าจะเป็นการทำงานในบ้าน หรือในองค์กรขนาดใหญ่
ปัจจัยที่ส่งผลต่อความเร็วของ NAS
- อุปกรณ์ภายในของ NAS: ไม่ว่าจะเป็น CPU, RAM หรือชนิดของฮาร์ดดิสก์ อย่าง SSD ที่ทำงานได้เร็วกว่า HDD ก็มีผลโดยตรงกับความเร็วการรับ-ส่งไฟล์
- การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต/เครือข่าย: ยิ่งใช้เครือข่ายที่เร็ว ความเร็วในการดาวน์โหลด/อัพโหลดก็ยิ่งสูงขึ้น อย่างถ้าเชื่อมต่อผ่าน 10 Gigabit Ethernet (10GbE) คุณจะได้ความเร็วสูงกว่าใช้ Gigabit Ethernet (1GbE) ที่หลายคนใช้อยู่
- การตั้งค่า RAID: ระบบ RAID ช่วยเพิ่มความเร็วในการอ่าน/เขียนไฟล์ได้ เช่น RAID 0 ที่เร็วมากแต่ไม่มีการสำรองข้อมูล RAID 5, RAID 6 จะช้ากว่าเล็กน้อยเพราะมีการสำรองข้อมูลเพิ่มความปลอดภัย
- โปรโตคอลในการถ่ายโอนข้อมูล: โปรโตคอลที่ใช้ในการแชร์ไฟล์ อย่าง SMB, NFS หรือ iSCSI ก็มีผลกับความเร็วในการรับ-ส่งไฟล์ด้วย iSCSI จะทำงานได้เร็วกว่าในบางกรณี
ความเร็วของ NAS ที่เร็วที่สุดตอนนี้คือเท่าไหร่?
สำหรับ NAS ที่ใช้ SSD และเชื่อมต่อผ่าน 10GbE ความเร็วสูงสุดในการดาวน์โหลด/อัพโหลดสามารถทำได้มากกว่า 1000 MB/s เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความเร็วสูงๆ เช่น การตัดต่อวิดีโอ 4K/8K การสำรองข้อมูลขนาดใหญ่ หรือแชร์ไฟล์ในองค์กรที่มีคนใช้งานเยอะๆ พร้อมกัน
วิธีเพิ่มความเร็วให้กับ NAS ของคุณ
ถ้าอยากให้ NAS ของคุณทำงานได้เร็วที่สุด ลองทำตามนี้:
- อัพเกรดเครือข่ายเป็น 10GbE: เครือข่ายยิ่งเร็ว ก็ยิ่งได้ความเร็วในการดาวน์โหลด/อัพโหลดมากขึ้น
- เปลี่ยนจาก HDD เป็น SSD: SSD จะทำให้การอ่าน/เขียนไฟล์ไวกว่า
- ปรับ RAID ให้เหมาะสม: RAID 0 จะเร็วที่สุด แต่ถ้าต้องการความปลอดภัยมากขึ้น RAID 5 หรือ 6 ก็เป็นทางเลือก
- เลือก NAS ที่มีสเปคแรง: CPU และ RAM ของ NAS มีผลต่อความเร็ว ยิ่งดีมากก็ยิ่งทำงานเร็ว
สรุปสั้นๆ
ความเร็วของ NAS ขึ้นอยู่กับฮาร์ดแวร์และเครือข่ายที่เราใช้ ถ้าต้องการความเร็วที่ดีที่สุด อย่าลืมพิจารณาเรื่อง 10GbE, SSD และ การตั้งค่า RAID จะช่วยให้การถ่ายโอนข้อมูลรวดเร็วขึ้น ทำให้การใช้งาน NAS เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด