Skip to content
Facebook-f Youtube Line

เปิดทำการ: จันทร์ - ศุกร์: 8:30น. - 17:30น.

  • เกี่ยวกับเรา
    • ข้อมูลบริษัท
    • ลูกค้าของเรา
    • ตัวแทนจำหน่าย
    • ใบรับรอง
  • ติดต่อเรา
  • บริการ
  • สินค้า
  • คอร์สอบรม
  • โซลูชัน
  • บทความข่าวสาร
  • ผลงาน

สั่งสินค้าออนไลน์

เมนู
  • บริการ
  • สินค้า
  • คอร์สอบรม
  • โซลูชัน
  • บทความข่าวสาร
  • ผลงาน
  • บริการ
  • สินค้า
  • คอร์สอบรม
  • โซลูชัน
  • บทความข่าวสาร
  • ผลงาน
แอดไลน์

สั่งสินค้าออนไลน์

สั่งสินค้าออนไลน์

แอดไลน์

OSI 7 Layers Models คืออะไร?

  • หน้าแรก
  • บทความข่าวสาร
  • OSI 7 Layers Models คืออะไร?
  • administrator
  • 3 ตุลาคม 2024
  • 11:42 น.
Facebook
LINE
Twitter
Pinterest

OSI (Open Systems Interconnection) 7 Layers Model คือโมเดลที่ใช้ในการอธิบายขั้นตอนต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในการส่งข้อมูลระหว่างอุปกรณ์สื่อสารสองอุปกรณ์ ซึ่งแบ่งออกเป็น 7 ชั้น (Layers) โดยแต่ละชั้นจะมีหน้าที่เฉพาะในการจัดการข้อมูลให้อุปกรณ์ทั้งสองสามารถส่งและรับข้อมูลได้อย่างถูกต้อง นี่คือวิธีการทำงานของแต่ละชั้นที่เข้าใจง่าย:

1. Physical Layer (ชั้นกายภาพ)

ชั้นนี้เกี่ยวข้องกับฮาร์ดแวร์และการส่งข้อมูลในรูปของสัญญาณไฟฟ้าหรือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าผ่านสายเคเบิลหรือสัญญาณไร้สาย เช่น การส่งข้อมูลผ่านสาย LAN หรือสัญญาณ Wi-Fi ชั้นนี้ทำหน้าที่ส่งและรับบิตข้อมูล (0 และ 1)

2. Data Link Layer (ชั้นเชื่อมโยงข้อมูล)

ชั้นนี้ทำหน้าที่ตรวจสอบข้อผิดพลาดในการส่งข้อมูลและจัดการกับที่อยู่ MAC (MAC Address) เพื่อให้สามารถส่งข้อมูลไปยังอุปกรณ์ที่ถูกต้องบนเครือข่ายได้ เช่น เมื่อคอมพิวเตอร์ 2 เครื่องส่งข้อมูลถึงกัน

3. Network Layer (ชั้นเครือข่าย)

ชั้นนี้จัดการกับการกำหนดเส้นทาง (Routing) ข้อมูลจากต้นทางไปยังปลายทาง โดยใช้ที่อยู่ IP (IP Address) ข้อมูลจะถูกส่งผ่านหลายเครือข่ายก่อนจะถึงที่หมาย เช่น การใช้โปรโตคอล IP ในการกำหนดเส้นทางข้อมูล

4. Transport Layer (ชั้นการขนส่ง)

ชั้นนี้มีหน้าที่ควบคุมการส่งข้อมูลระหว่างต้นทางและปลายทาง เช่น การจัดลำดับของแพ็กเก็ตข้อมูลและการแก้ไขข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น ชั้นนี้จะใช้โปรโตคอลอย่าง TCP (Transmission Control Protocol) หรือ UDP (User Datagram Protocol) ขึ้นอยู่กับว่าข้อมูลต้องการการตรวจสอบความถูกต้องหรือไม่

5. Session Layer (ชั้นการจัดการเซสชัน)

ชั้นนี้ทำหน้าที่สร้างและจัดการเซสชันการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ เช่น การเริ่มต้นและยุติการเชื่อมต่อในการส่งข้อมูลระหว่างอุปกรณ์หลาย ๆ เครื่องในเครือข่าย

6. Presentation Layer (ชั้นการนำเสนอ)

ชั้นนี้จัดการกับรูปแบบข้อมูล โดยทำให้ข้อมูลที่ส่งมาสามารถอ่านและแสดงผลได้อย่างถูกต้อง รวมถึงการเข้ารหัสและถอดรหัสข้อมูล เช่น การบีบอัดไฟล์ หรือการแปลงรูปแบบไฟล์

7. Application Layer (ชั้นแอปพลิเคชัน)

ชั้นสุดท้ายนี้ทำหน้าที่จัดการการโต้ตอบระหว่างผู้ใช้กับแอปพลิเคชัน เช่น เว็บเบราว์เซอร์หรืออีเมลที่คุณใช้ในการเข้าถึงข้อมูลหรือส่งข้อความ การใช้งานโปรโตคอล HTTP หรือ FTP ก็เกิดขึ้นในชั้นนี้

ทำไม OSI Model ถึงสำคัญ? โมเดล OSI ช่วยให้เรามองเห็นภาพรวมการทำงานของระบบเครือข่ายได้อย่างชัดเจน ซึ่งช่วยให้การพัฒนา การแก้ไขปัญหา และการสื่อสารระหว่างผู้เชี่ยวชาญต่าง ๆ ในวงการเครือข่ายง่ายขึ้นมาก

  • ป้ายกำกับ: อินเตอร์เน็ต, เน็ตเวิร์ค
Prevย้อนกลับQuickConnect คืออะไร? รุ่น NAS Synology ที่รองรับมีอะไรบ้าง
ถัดไปSIP ALG คืออะไร? เข้าใจง่ายสำหรับผู้ใช้งาน VoIPNext

CYN

CYN COMMUNICATION CO.,LTD. จัดจำหน่าย ให้เช่า และบริการออกแบบติดตั้ง ระบบและอุปกรณ์เน็ตเวิร์ค, บอร์ดแคส สตรีมมิ่ง, เซิร์ฟเวอร์ พร้อมให้บริการ Solution ต่างๆที่เกี่ยวข้อง

Facebook-f Youtube Line

บริการ

  • เซิร์ฟเวอร์
  • ถ่ายทอดสด
  • อินเตอร์เน็ต
  • เน็ตเวิร์ค
  • ประชุม & สัมนาออนไลน์
  • กล้องวงจรปิด

สินค้า

  • Peplink
  • Ruijie
  • Reyee
  • Engenius
  • Blackmagic
  • Synology

เกี่ยวกับเรา

  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • ร่วมงานกับเรา

ติดตามข่าวสาร

รับข่าวสารล่าสุดของเราส่งตรงไปยังกล่องจดหมายของคุณ

© 2022 cyn.co.th. All Rights Reserved.

  • ข้อกำหนดการใช้งาน
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว